ทัวร์ตุรกี แกรนด์ตุรกี

ทัวร์ตุรกี  แกรนด์ตุรกี  - NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
รหัสทัวร์
002-02558
วันที่เดินทาง
ม.ค.68 - มิ.ย.68
ช่วงเวลา
10 วัน 7 คืน
เดินทางโดย
Thai Airways (TG)

ไฮไลท์

  • นั่งเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบดาร์นาแนลส์(สมรภูมิรบกัลลิโพลี)เที่ยวชมเมืองโบราณ “ทรอย”
  • เข้าชมเมืองโบราณเอเฟซุส” ยุคกรีก-โรมัน ที่ยังคงสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศตุรกี
  • สัมผัสความงามของปราสาทปุยฝ้าย หรือ “ปามุคคาเล่” มรดกโลกทาง ธรรมชาติและวัฒนธรรม 
  • ชมเมืองพร้อมล่องเรือชมความงดงามของเมืองตากอากาศอันทาเลีย
  • ชมเมืองคอนย่า เมืองสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเติร์ก
  • เข้าชมความยิ่งใหญ่ของนครใต้ดิน “ไคมัคลี” และท่องเที่ยวในเมืองคัปปาโดเกียอย่างจุใจ(พักในโรงแรมถ้ำ(ที่หรูหรา)
  • ชมนครอิสตันบูลเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศ เข้าชมพระราชวังทอปคาปี
  • ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส” หนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่อของโลกเชื่อมระหว่างยุโรปและเอเชีย
  • เข้าชมภายในสุเหร่าสีน้ำเงิน” (BLUE MOSQUE) มัสยิดแสนสวยที่สำคัญที่สุดของประเทศ
  • เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฮาเกีย โซเฟีย(เซนต์ โซเฟีย)
  • เข้าชมพระราชวังโดลมาบาเช่ พระราชวังสไตล์ยุโรปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ
  • ชมม้าไม้ แห่งเมืองทรอยที่มีชื่อเสียงกว่า สองพันปี
  • ช้อปปิ้งอย่างจุใจในตลาดเครื่องเทศและแกรนด์บาร์ซาร์

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
30 ม.ค. 68 - 08 ก.พ. 6875,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
07 ก.พ. 68 - 16 ก.พ. 6875,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
07 มี.ค. 68 - 16 มี.ค. 6875,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
21 มี.ค. 68 - 30 มี.ค. 6875,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
01 เม.ย. 68 - 10 เม.ย. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
18 เม.ย. 68 - 27 เม.ย. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
02 พ.ค. 68 - 11 พ.ค. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
22 พ.ค. 68 - 31 พ.ค. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
01 มิ.ย. 68 - 10 มิ.ย. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
20 มิ.ย. 68 - 29 มิ.ย. 6877,900 บาท22,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

แผนการเดินทาง

21.30 น.  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
เคาน์เตอร์สายการบินไทย แอร์เวย์ ประตูทางเข้า 10 เคาน์เตอร์ U โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกและดูแลเรื่องสัมภาระพร้อมบัตรที่นั่ง

00.45 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบลู โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 900

06.05 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบลู หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้า เมือง และด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

ออกเดินทางสู่ “เมืองชานัคคาเล่” (CANAKKALE) ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า “โบกาซี” (BOGAZI) หรือ เฮลเลสปอนต์ (HELLESPONT) ตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ใกล้กับแหลมเกลิโบลูบนฝั่งของทะเลมาร์มาร่าและติดกับทะเลอีเจียน โดยมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง นำท่านเข้าสู่ท่าเรือ “อีเคบัท” (ECEABAT) เพื่อเปลี่ยนเป็นเรือเฟอร์รี่ ข้ามฟากสู่ชานัคคาเล่ (ฝั่งเอเชีย) ระหว่างการล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบคาร์ดาแนลส์

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำท่านชม “เมืองทรอย” (TROY) ปัจจุบันกรุงทรอย ได้ตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ ซึ่งได้มีการขุดค้นซากกรุงทรอยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปีซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก โดยนักโบราณคดีชาวเยอรมันชื่อเฮนริค ชไลแมนน์ (HEINRICH SCHLIEMANN) ในปี 1870 ปัจจุบันเหลือเพียงซากที่ทับถมซ้อนกันถึง 9 ชั้น และอนุสรณ์อันยิ่งใหญ่อย่างม้าไม้เมืองทรอย นำชม  “ม้าไม้จำลองเมืองทรอย” ที่ชื่อว่า “ม้าไม้โทรจัน” ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุงทรอยแตก สงครามม้าไม้ เป็นสงครามที่สำคัญตำนานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี กองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอย โดยการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่าม้าไม้เมืองทรอย โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันแล้วก็ทำการเข็นไปไว้หน้ากรุงทรอยเหมือนเป็นของขวัญและสัญลักษณ์ว่าชาวกรีกยอมแพ้สงครามและได้ถอยทัพออกห่างจากเมืองทรอย ชาวทรอยเมื่อเห็นม้าโทรจันก็ต่างยินดีว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพไปแล้วก็ทำการเข็นม้าโทรจันเข้ามาในเมืองแล้วทำการเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่เมื่อชาวทรอยนอนหลับกันหมด ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาจากม้าโทรจันแล้วทำการเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกเข้ามาในเมืองแล้วก็สามารถยึดเมืองทรอยได้ ก่อนที่จะทำการเผาเมืองทรอยทิ้ง ได้เวลาอันสมควร นำท่าน เดินทางสู่ “เมืองไอยวาริค” (ระยะทาง 167 กม.)

ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่: HALIC PARK HOTEL / GRAND TEMIZEL / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ “เมืองเพอร์กามา” (BERGAMA) เป็นเมืองชายฝั่งทะเลเอเจียนของประเทศตุรกี ในอดีตกลุ่มชาวกรีก อีโอเลียน (AEOLIAN) เป็นผู้บุกเบิกในการเข้ามาตั้งรกราก ในช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล และยังมีซากเมืองโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ชม เมืองเพอร์กามาเป็นเมืองโบราณ มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงราว 281-133 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งถือเป็นยุคทองของศิลปะและวิทยาการของกรีก เรียกว่ายุค “เฮลเลนลิสติก” (HELLENISTIC) โดยดินแดนอนาโตเลีย (หรือตุรกีในปัจจุบัน) ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้อาณาจักรเปอร์เซีย และต่อมาถูกยึดครองโดย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี หลังจากนั้น พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชก็สิ้นพระชนม์ อาณาจักรทั้งหมดของพระองค์จึงถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ปกครองโดยขุนพลสำคัญของพระองค์ 4 คนคือ 1.คัสซันโดรส (CASSANDROS) ปกครองมาซิโดเนีย และ กรีซ 2.เซเลอคุส (SELEUSCUS) ปกครองเมโซโปเตเมีย ซีเรีย และอานาโตเลียตะวันออก 3.ปโตเลมี (PTOLEMY) ปกครองอียิปต์ ลิเบีย และอานาโตเลียตอนเหนือ 4.ไลซิมาคุส (LYSIMACHUS) ปกครองอานาโตเลียตอนใต้และตะวันตก นำทุกท่านชม “แท่นบูชาเพอร์กามา” (PERGAMON ALTAR) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ EUMENES II ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 2 บนระเบียงแห่งหนึ่งของเมืองกรีกโบราณ PERGAMON โครงสร้างมีความกว้าง 35.64 เมตรและลึก 33.4 เมตร บันไดหน้าเพียงลำพังกว้างเกือบ 20 เมตร ฐานตกแต่งด้วยผ้าสักหลาดนูนสูงโล่งอกแสดงการต่อสู้ระหว่างเหล่ายักษ์และเทพเจ้าโอลิมเปียที่รู้จักกันในนาม GIGANTOMACHY มีผนังชั้นสองที่มีขนาดเล็กกว่าและได้รับการอนุรักษ์ไว้น้อยกว่าบนผนังศาลด้านใน นำชม RED BASILICA หรือที่รู้จักกันในชื่อ RED HALL และ RED COURTYARD เป็นวิหารเก่าแก่ที่ถูกทำลายในเมืองโบราณของ PERGAMON ซึ่งปัจจุบัน BERGAMA ทางตะวันตกของประเทศตุรกี วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโรมันอาจอยู่ในช่วงเวลาของเฮเดรียนและตามคำสั่งของพระองค์ เดินทางสู่ มหานครโบราณยุคสมัยกรีกและโรมัน “เอเฟซุส” (EPHESUS) (ระยะทาง 188 กม.)   โดยมีอายุมากกว่า 2,500 ปี ถูกสร้างขึ้นก่อนยุคคริสตกาล

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำชม “เมืองโบราณเอเฟซุส” หรือ เอเฟส เมืองโบราณยุคกรีกโรมัน เป็นเมืองเก่ายุคจักรวรรดิโรมันที่ถือว่าเจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะวิทยาการ มีระบบวางท่อน้ำ หอสมุด และอื่นๆรวมทั้งโรงละครใหญ่ทรงโค้งแบบพิมพ์นิยมของกรีกโบราณ มีลานกว้างตรงกลาง แบ่งที่นั่งคนดูเป็น 3 ชั้นตามระดับความสำคัญไล่ไปจนถึงคนธรรมดาสามัญ ใช้เป็นที่เป็นที่ประชุม จัดแสดงละครและการต่อสู้สิงสาราสัตว์ของเหล่าทาส จากนั้น เข้าชม “โรงงานเครื่องหนัง” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองคุซาดาซึ” (KUSADASI)

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่: SIGNATURE BLUE HOTEL / RAMADA KUSADASI HOTEL / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ “ปามุคคาเล่” (PAMUKKALE) (ระยะทาง 191 กม.) บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมา โดยคำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” PAMUK หมายถึง ปุยฝ้าย และ KALE หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ”

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำท่านชม “นครโบราณเฮียราโพลิส” หรือนครศักดิ์สิทธิ์ (HIERAPOLIS) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2,200 ปี เพราะถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเล่ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์และยุคเสื่อมถอยเฮียราโพลิสเองก็เป็นแบบนั้น หลังจากเมืองนี้ถูกยกให้พวกโรมัน ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงจนเมืองย่อยยับ

ประมาณปลายศตวรรษที่ 2 เฮียราโพลิส ค่อยๆถูกบูรณะฟื้นฟูขึ้นใหม่ จนก้าวสู่ศตวรรษที่ 3 ด้วยความรุ่งโรจน์สุดๆแต่เวลาเคลื่อนไปถึงศตวรรษที่ 7 ก็ถึงยุคเสื่อม เมื่อถูกข้าศึกต่างถิ่นรุกราน นอกจากนี้ยังได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว นำท่านชม “ปราสาทปุยฝ้าย” (COTTON CASTLE) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน มีหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้ มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ ในปี ค.ศ.1988 เมืองเฮียราโพลิสและปามุคคาเล่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม  จากนั้น เดินทางสู่ “อันตัลยา” (ANTALYA) (ระยะทาง 242 กม.) เมืองท่องเที่ยวชายทะเล ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งแคบๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและท้องทะเลอันงดงาม จนนักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนล้วนให้การยกย่องว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งตุรกี” สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองมีทั้งส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูซีฟู้ด

พักที่ :   ADONIS HOTEL ANTALYA / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านชม “หอคอยฮิดิร์ลิค” (HIDIRLIK TOWER) เป็นหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือ ประภาคาร ในอดีตเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง จากนั้นนำชม “ประตูเฮเดรียน” (HADRIAN’S GATE) ประตูชัย ซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน (ROMAN EMPEROR HADRIAN) ในช่วงศตวรรษที่ 2 โดยประตูนั้น ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบทรงโค้งจำนวน 3 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นประตูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของตุรกี  นำท่าน “ล่องเรืออ่าวอันตัลยา” (ANTALYA BOAT TRIP) ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างทางที่ได้ล่องเรือ ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศบ้านเมืองอันสวยงาม โรงแรมและบ้านที่ลดหลั่นแต่ละชั้นสลับกับต้นไม้สวยงามบนหน้าผา ท่านจะได้ชมวิวความงดงามของ “น้ำตกดูเดน” (DUDEN WATERFALLS) น้ำตกขึ้นชื่อของเมืองอันตัลยา ที่ไหลลงสู่ยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายชั้น บางช่วงก็มีลักษณะเหมือนลำธารไหลไปสิ้นสุดที่หน้าผาหินริมทะเล ซึ่งทำให้น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามมาก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองคอนย่า” (KONYA) (ระยะทาง 305 กม.)   เป็นเมืองที่นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกีหรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ   นำท่านชม “พิพิธภัณฑ์เมฟลานา” (MEVLANA MUSEUM) อาคารหลังใหญ่ที่มีโดมสีเขียวทรงแปลกตาหลังนี้แม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แต่ในอดีตแล้วที่นี่คือสถานที่สำหรับ

 ประกอบ พิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่สร้างโดย “เมฟลานา เจลาลุดดีน รูมี” ( MEVLANA CELALEDDIN RUMI) และบรรดานักบวชในศาสนาจะใช้เป็นที่สวดมนต์ทำสมาธิด้วยวิธีการอดอาหารเพื่อทรมานตัวเองแล้วไปเดินหมุนวนเป็นวงกลมพร้อมกับการทำจิตให้สงบด้วยการฟังเสียงขลุ่ยเรียกวิธีนี้ว่า “WHIRLING DERVISHES” ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะมีสวนสวยริมทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหิน ส่วนพิพิธภัณฑ์ยังตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ก็เป็นไปในรูปแบบของมุสลิมด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาลุดดีน รูมี ผู้สร้าง ตลอดจนคนในครอบครัวและกลุ่มลูกศิษย์ผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดท่านด้วย อีกทั้งในวันที่ 17 ธันวาคมของทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองวันครบรอบการจากไปของเมฟลานาเมื่อปี ค.ศ. 1271

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่: GRAND KONYA HOTEL / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ “เมืองคัปปาโดเกีย” (CAPPADOCIA) (ระยะทาง 240 กม.) เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามและเป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ คัปปาโดเกีย  เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดีตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา กระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปีจนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปีค.ศ. 1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี ระหว่างทาง แวะเที่ยวชม “คาราวานสไลน์” (CAVARANSERAI) ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานีสร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว โรงอาบน้ำ และห้องนอน โดยคำว่า “คาราวานสไลน์” หมายถึง ที่พักของผู้ที่ตรากตรำมาจากการเดินทาง โดยคาราวานสไลน์นั้น มักมีประตูสูงกว่าตัวอาคารมากเพื่อให้นักเดินทางมองเห็นได้แต่ไกล

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย เดินทางสู่ “ไคมัคลี” (KAYMAKLI) เพื่อนำท่านชม “นครใต้ดิน” (KAYMAKLI UNDERGROUND CITY) เมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้ / นำท่านเข้าพักโรงแรมสไตล์ถ้ำแบบลักซ์ชัวรี่ 5 ดาว หรูหราและได้บรรยากาศแบบชาวถ้ำคัปปาโดเกียอย่างแท้จริง

ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” (BELLY DANCE) อันเลื่องชื่อ ณ เมืองคัปปาโดเกีย ระบำหน้าท้องเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)

พักที่: KALSEDON CAVE / MINIA CAVE / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

05.30 น.  ***สำหรับท่านที่สนใจ ขึ้นบอลลูน เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น ท่านสามารถเลือกซื้อ OPTIONAL HOT AIR BALLOON TOUR ได้ ในราคาประมาณ 280 USD ต่อท่าน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ OPTIONAL TOUR ขึ้นกับดุลยพินิจของท่าน)***

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำชม “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่” (GOREME OPEN AIR MUSEUM) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำท่านสู่ “อุชิซาร์” (UCHISAR) หนึ่งในความมหัศจรรย์ของคัปปาโดเกีย หุบเขาอุซิซาร์ หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด เหมือนรวงผึ้ง อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย อุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ในอดีตอุซิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย นำท่านชมความงดงาม RED VALLEY ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง ทิวทัศน์อันตระการตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุบเขาคู่กันได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามที่สุดในคัปปาโดเกีย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เมนูพิเศษ!!! เคบับหม้อดินเผาอาหารขึ้นชื่อของเมืองคัปปาโดเกีย มาแล้วต้องลองให้ได้)

บ่าย  นำท่านชม “พาซาแบค” (PASABAG VALLEY) หินทรงสูงใหญ่มีรูปร่างคล้ายเห็ดสามหัว เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของคัปปาโดเกีย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมปล่องไฟสามเศียร ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยหินธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตา ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ DEVRENT VALLEY ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นปล่องไฟนางฟ้าในรูปแบบต่างๆ  นำท่านแวะ “ชมโรงงานทอพรม”  “โรงงานเซรามิค” และ “ร้านจิวเวอร์รี่” สินค้าคุณภาพดี และขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัยอิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก

17.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
หลังรับประทานอาหาร ออกเดินทางสู่ สนามบินไคเซอรี่

20.25 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2021

21.55 น. เดินทางถึง อิสตันบูล นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง “อิสตันบูล” (ISTANBUL) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้อิสตันบูลมีเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี โดยบริเวณเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของพระราชวังโบราณ มัสยิด โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ รวมถึงอาคารแบบออตโตมันและแบบยุโรป

พักที่: RAMADA RESORT BY WYNDHAM ISTANBUL MERTUR HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าชม “สุเหร่าสีน้ำเงิน” (BLUE MOSQUE) หรือชื่อเดิม คือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (SULTAN AHMED MOSQUE) ** การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่ง ขอความร่วมมือจากทุกท่านในการแต่งกายเรียบร้อย ด้านในต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สำหรับผู้หญิง แนะนำควรมีผ้าคลุมผม **  สุเหร่านี้สร้างในปี 2152 และเสร็จปี 2159 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า  ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลิเรีย (KULLIYE)

นำท่านเข้าชมภายใน “สุเหร่าเซนต์โซเฟีย” (SAINT SOPHIA) หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนจะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบเซนไทน์ (BYZANTINE) ทั้งนิกายออร์โธดอกซ์ และ คาทอลิกกรีก ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม นำท่านชม “ฮิปโปโดรม” (HIPPODROME) หรือสนามแข่งม้าโบราณ ซึ่งมีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร มีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง เดินทางสู่ “ย่านกาลาตา” ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตอนเหนือของช่องแคบโกลเด้นฮอร์น (GOLDEN HORN)

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร

นำชม “หอคอยกาลาตา” (GALATA TOWER) หอคอยหินยุคกลางสไตล์โรมัน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของอิสตันบูล ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทรและบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล ซึ่งในอดีตพื้นที่แถบนี้เคยเป็นอาณานิคมของชาวเจนัว (GENOESE) อิสระให้ท่านเดินเล่นชมย่านกาลาตาตามอัธยาศัย นำท่านสู่ “แกรนด์บาซาร์” (GRAND BAZAAR) ตลาดช้อปปิ้งที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดในตุรกีเป็นตลาดสไตล์เตอร์กิชแท้ ๆ ภายในตลาดตกแต่งไว้อย่างสวยงามและเป็นตลาดเก่าแก่เปิดมานานกว่า 1,500 ปี ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1453 มีเนื้อที่ทั้งหมดเกือบ ๆ 200 ไร่ มีร้านค้าขายของต่าง ๆ มากถึง 5,000 ร้านค้า ที่ตลาดแกรนด์บาซ่าร์มีสินค้าให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นของกินเล่นขนมของตุรกีที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ ของที่ระลึกที่แนะนำก็จะเป็น ลูกปัดตาปีศาจ เครื่องราง  ชา ผลไม้อบแห้ง  ถั่วหลากชนิด เช่น ถั่วแมคคาดาเมีย พิตาชิโอ หรือจะเป็นขนมหวาน เตอร์กิสดีไลต์  เครื่องเทศ  เซรามิก จาน ชาม แจกัน เครื่องดนตรีพื้นเมือง โคมไฟ พวงกุญแจหรือกระเบื้องเพนท์ติดผนัง และของที่ระลึกอื่นอีกมากมาย 

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

พักที่: RAMADA RESORT BY WYNDHAM ISTANBUL MERTUR HOTEL  หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าชม “พระราชวังโดลมาบาเชห์” (DOLMABAHCE PALACE) สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (ABDUL MECIT) ในปี ค.ศ.1843-1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน จากนั้น นำท่านเข้าชม “พระราชวังทอปคาปึ” (TOPKAPI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปคาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส โกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน นำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย   นำทุกท่าน “ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส” (BOSPHORUS CRUISE) ถือเป็นหนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆของโลก เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งอิสตันบูลออกจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อกับทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีป

ยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ ระหว่างการล่องเรือ ผ่านชม พระราชวังโดลมาบาเชห์ สร้างโดย สุลต่านอับดุล เมซิด (ABDUL MECIT) ในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป สมควรแก่เวลา นำทุกท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานอิสตันบูล อาตาตูร์ก

16.30 น.  เหิรฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 901

06.05 น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

แผนที่

เงื่อนไข

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ // อิสตันบูล-กรุงเทพฯ
  2. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
  3. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
  4. ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
  5. ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้  และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเดี่ยวเพิ่ม
  7. น้ำดื่มบริการบนรถโค้ช
  8. รวมค่าทิปพนักงานขับรถตลอดการเดินทาง
  1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท / ท่าน (1,000 บาท)
  3. ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ท่านล่ะ 25 USD
  4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
  5. ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

หมายเหตุ

บริษัทฯ จะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์ม มาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง

หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก

เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน

กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

-    ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา

-    ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น

-    ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ

หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%

ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะหมายเหตุ...

กรณีท่านที่ประสงค์พักแบบห้องสามเตียง(Triple Room) หากทางโรงแรมที่พักไม่สามารถจัดห้องพักแบบสามเตียงได้ อาจต้องเป็นเตียงเสริมแทน หรือ อาจต้องแยกเป็นห้องสองเตียง 1 ห้องและห้องเตียงเดียว 1 ห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าห้องเดียวทั้งนี้ทางลูกค้าต้องเป็นผู้จ่ายค่าห้องเดียวเอง(ทางบริษัทฯ ขอแนะนำให้พักสองห้อง)

รูปภาพใช้ในการโฆษณาเท่านั้น

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
75,900 บาท
รหัส 002-02558 ทัวร์ตุรกี แกรนด์ตุรกี
ระยะเวลา 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้น 75,900 บาท
เดินทางช่วง ม.ค.68 - มิ.ย.68
เดินทางโดย Thai Airways (TG)
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม https://naturetrekecotour.com/tour.php?tour_id=9059
--------------------------------------
ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/053/002-02558.pdf
--------------------------------------
สนใจติดต่อ NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
เลขที่ใบอนุญาต 11/11898
โทร +66 (0) 88 141 9894 ,+66 (0) 2 556 1223 ,+66 (0) 99 325 2553
LINE ID @naturetrek
อีเมล sale.naturetrekth@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
เลขที่ใบอนุญาต 11/11898

48/4  แขวง คุ้งกระถิน  เขต เมืองราชบุรี จังหวัด ราชบุรี รหัสไปรษณีย์ 70000

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา