ทัวร์ยุโรป อิตาลี ออสเตรีย เยอรมัน สวิต

ทัวร์ยุโรป อิตาลี ออสเตรีย เยอรมัน สวิต - NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
รหัสทัวร์
039-01724
วันที่เดินทาง
ส.ค.67 - ธ.ค.67
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
เดินทางโดย
Qatar Airways (QR)

ไฮไลท์

  • มหาวิหารแห่งมิลาน  – เวโรน่า – บ้านของจูเลียต – เวนิส – สะพานถอนลมหายใจ 
  • จัตุรัสซานมาร์โค – อินส์บรุค - ฮัลล์ทัทท์ – มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาส
  • โฮเฮนชวานเกา – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ฟุสเซ่น – หอนาฬิกาเบิร์น
  • บ้านไอซไตน์ – อินเทอร์ลาเค่น - พิชิตยอดเขาจุงเฟรา – สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป 
  • ลานหิมะ – ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี – ลูเซิร์น – อนุสาวรีย์สิงโต – สะพานไม้คาเปล

แผนการเดินทาง

17.00 น.คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) สังเกตป้ายบริษัท เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอํานวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

20.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ QR 833 / QR 123 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

06.35 น. เดินทางถึงสนามบินมิลาน เมืองทางเหนือของประเทศอิตาลีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านนแฟชั่น และศิลปะ ซึ่งมิลานถูก จัดให้เป็นเมืองแฟชั่นหลังผ่านพิธีการด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ใจกลางเมืองมิลาน

   นําท่าน ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็น วิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่ นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังบริเวณอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 ซึ่งเป็นห้างหรือศูนย์การค้าที่
เก่าแก่ที่สุดในโลก

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)


   นําท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเวโรน่า (VERONA) เมืองที่โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของวิลเลี่ยม เชกส์เปียร์ ชื่อโรมิโอและจูเลียต นําท่านชม ย่านเมืองเก่า ที่ยังคงสภาพบ้านเรือนแบบโบราณ นําท่านสู่ จตุรัสเออร์เบ ที่รายล้อม ไปด้วยคฤหาสน์, วังเก่าของตระกูลที่เคยปกครองเวโรน่า ระหว่างทาง ผ่านชม ความยิ่งใหญ่ภายนอกของ โรมัน อารี น่า สนามกีฬากลางแจ้งแบบโบราณในสมัยโรมัน เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึก และสินค้าแบรนด์เนมที่มี ให้ท่านได้เลือกอย่างมากมายตามอัธยาศัยบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า นําท่านชม อดีตบ้านของจูเลียต ปัจจุบันหน้าบ้านจู เลียตคือ ร้านArmani ชมระเบียงหินอ่อนเล็ก ๆ ที่จูเลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอมาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง ตั้งอยู่ ที่บ้านเลขที่ 27 ถนนแคปเปลโล (Cappello) ในเมืองเวโรน่า (Verona) บริเวณบ้านมีรูปปั้นจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ปั้นโดย ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของจูเลียต นอกจากนี้ภายในบริเวณ N.Costantini และยังมีบริการโทรศัพท์ กําแพงบ้านจูเลียตยังมีการเขียนแสดงความรักกันมากมายจนแทบไม่เห็นสีกําแพงเดิม สําหรับคนที่ไม่ได้มากับคนรักให้ได้เซย์ฮัลโหลหากันว่าโทรมาจากบ้านจูเลียตแห่งนี้ ได้เวลานัดหมายนําท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (VENICE) เมืองบนเกาะเจ้าของฉายา ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จํานวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย
เดินทางผู้ยิ่งใหญ่มาร์โคโปโล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติกและยังเป็นบ้านเกิดของนัก


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)
พักค้างคืน ณ Voco Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 1)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (ม้ือที่3)

    นําท่านเดินทางสู่ เกาะเวนิส – เมรเตร้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที) ศูนย์กลางของนครเวนิส ระหว่างทางท่านจะ ได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็น ศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชมจัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตํารับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมี รูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เวลาสมควรนําท่านเดินทางกลับเมืองเมสเตร้


เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (ม้ือที่4)


  นําท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองหลวงของรัฐทิโรล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ําอินน์กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิ เลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนใน เมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พระนางมาเรีย เทเรเซียผู้ยิ่งใหญ่หรือแม้แต่นโปเลียน โบนาปาร์ต ระหว่างทางพักผ่อนตาม อัธยาศัยเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสองข้างทาง จากนั้นนําท่านชมความร่มรื่นของสวนสาธารณะฮอฟการ์เด้น ถ่ายรูป กับ วังหลังคาทองคํา เป็นสัญลักษณ์สําคัญของเมืองอินส์บรุคซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สําหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian ทรง ปรับเปลี่ยนโกลเด้นรูฟให้เป็นสไตล์โกธิคผสมบารอก และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคําแท้ จํานวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้นรูฟกลายเป็นสํานักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ เสาสูงอนาซอล จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้งเครื่อง แก้วคริสตัลซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังสุดของออสเตรีย


ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
พักค้างคืน ณ Hotel Grauer Bar หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 2)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)

   จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองที่ได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลก ฮัลล์ทัทท์เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์ชตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See) ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สําคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศเมือง ท่องเที่ยวเล็กๆ ที่มีเสน่ห์คือความเงียบสงบสวยงาม จุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยของเมืองริมทะเลสาบสีน้ําเงิน แห่งนี้ก็คือ เทือกเขาสูงตระหง่านล้อมรอบทะเลสาบอันนิ่งสงบเอาไว้อย่างนุ่มนวล


เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) พิเศษกับเมนูปลาเทร้าย่างเกลือ


   นําท่านเดินทางสู่ ใจกลางนครมิวนิค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และ เป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป เมืองตั้งอยู่บนแม่น้ําอีซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์ นําท่านชม จัตุรัสมาเรียนพาซ ย่านใจกลางเมืองเก่าของมิวนิค ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่าที่งดงามด้วยศิลปะโกธิค และวิหารแม่พระโบสถ์ใหญ่ที่ มีโดมเป็นรูปทรงคล้ายหัวหอมใหญ่ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า ย่านถนนคนเดินซึ่งจะมีห้างสรรพสินค้ามากมายหลายแห่ง


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
พักค้างคืน ณ ACHAT Hotel Munchen Sud หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 3)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9)

   นําท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เดิน ทางผ่านเส้นทางที่มีทิวทัศน์อันสุดแสนโรแมนติค ท่ามกลางธรรมชาติของเขาสูง เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสองปราสาท สวยงาม คือปราสาทโฮเฮนขวานเกา ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าแม็กซิมิเลี่ยนที่ 2 ( พระราชบิดาของพระเจ้าลุควิกที่ 2 ) และปราสาทนอยชวานชไตน์ เป็นปราสาทซึ่งสร้างตามพระจินตนาการส่วนพระองค์ของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 บริเวณใกล้กันกับปราสาทจะมีทะเลสาบสวยงามที่มีชื่อว่าทะเลสาบแอลป์


เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10) พิเศษกับเมนูขาหมูเยอรมัน+เบียร์


   นําท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) โดยรถบัสเล็ก (หากช่วงที่หิมะตกหนักรถบัสจะหยุดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เนื่องด้วยเพื่อความปลอดภัยทางบริษัทฯ จะนําคณะ เดินขึ้น – ลงปราสาท เนื่องจากเวลาหิมะตกทางจะลื่นและอันตราย) นําเข้าชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของ พระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว พระเจ้าลุดวิกทรงเป็นบุคคลที่มีลักษณะนิสัยที่ลึกลับเป็นปริศนา (eccentric) และเป็นผู้ที่สิ้นพระชนม์ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างมีเงื่อนงํา สุขภาพจิตของพระองค์ในบั้นปลายอาจจะไม่ปกติแต่ก็ไม่ มีหลักฐานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยืนยันได้แน่นอน แต่สิ่งที่ทรงทิ้งไว้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังคืองานทางสถาปัตยกรรมที่ทรงก่อสร้างรวมทั้งวังและปราสาทใหญ่โตที่ทั้งหรูหราโอ่อ่าและเต็มไปด้วยจินตนาการราวเทพนิยาย หลายแห่ง รวมทั้งปราสาทนอยชวานชไตน์ซึ่งเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีและนักเขียนดนตรี โอเปร่าคนสําคัญของเยอรมนีชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับ การตกแต่งอย่างงดงาม โดยการออกแบบของ คริสเตียน แยงค์ จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐบาวาเรียประเทศเยอรมนีในเขตออสทัลล์กอย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ทุกฤดู นําท่านชมย่านเมืองเก่าซึ่งมีความสวยงามตึงตาที่ท่านมิอาจลืมได้


ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ที่ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)
พักค้างคืน ณ Luitpoldpark-Hotel หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 4)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มือที่ 12)

   นําท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น เมืองหลวงอันเก่าแก่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็น อย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ Unesco จากนั้นนําคณะเดินทางเข้าสู่ ย่าน มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีค เป็นเขตที่ปลอดมลพิษไม่ให้รถยนต์วิ่ง ผ่านจึงเหมาะกับการเดินเที่ยว นําชมอาคารเก่า อายุ 200 – 300 ปี ชมถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆของ เมืองนี้ เดินทางเข้าสู่ ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ก ล็อคเค่นอายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ชมมหาวิหารเซนต์วินเซนต์รัทฮาวน์ เบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ําพุมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป ให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเมืองพร้อมชมอดีตบ้านพักของไอสไตน์ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)


   นําท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ, นาฬิกาดอกไม้, สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้ เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปี ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารพื้นเมือง ให้ท่านได้ลิ้มลองเมนูฟองดูว์แบบต้นตํารับ ที่ขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ ทั้ง 3 ชนิด เริ่มต้นจากชีส // เนื้อสัตว์ และ ช็อคโกแลต (มื้อที่ 14)
พักค้างคืน ณ Lindner Grand Hotel Beau Rivage หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 5)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 15)

   นําคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชมุ่งหน้าขึ้นสู่ หมู่บ้านกรินเดลวาลด์กรุน เเพื่อนําท่านขึ้นรถไฟ สายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบาน สะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลําธารน้ําธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทําให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติ บนภูเขาสูงแห่งแอลป์ แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนําท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ ชาวสวิสฯ ได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บน ยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) จุดสูงสุดคือลานน้ําแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สว ที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ

   จากนั้นนําท่าน ชม ถ้ำน้ําแข็ง 1,000 ปี ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ําแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ําแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์ และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทําการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อม ซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย นําท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ฟราวยอร์ค-หลังคา ยุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง


เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงเฟรา (ม้ือที่16)

   นําท่านลงจากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์ เกลทเชอร์ เพื่อนําท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด)ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์ นําท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี นําท่านชม อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการ ต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสแกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง (ไม่ใช่วิ่งชมเมือง) หรือ ช้อปปิ้ง นาฬิกาสวิสฯ อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็น ต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกเช่น มีดสวิสฯ พร้อมสลักชื่อ, สินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก, ช็อคโกแลต เป็นต้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร(ม้ือที่17) (อาหารไทย
พักค้างคืน ณ Radisson Blu Lucerne หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 6)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18)

  ออกเดินทางเข้าสู่ ซาฟเฮาส์เซ่น เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ นําคณะชมความสวยงามของน้ําตกไรน์ ซึ่งเกิดจาก แม่น้ําไรน์สายน้ํานานาชาติที่สําคัญที่สุดในยุโรป แม่น้ําแห่งนี้เกิดขึ้นจา งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาแอลป์เริ่ม จากเป็นลําธารเล็กๆผ่านลิคเท่นสไตน์เข้าสู่ทะเลสาบคอนสะแต้นที่กั้นพรหมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมนี สัมผัสความตระการตาของสายน้ําตก พร้อมบันทึกภาพอันน่าประทับใจไว้เป็นที่ระลึก ได้เวลานัดหมายนําคณะออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติซูริกเพื่อทําการเช็คอินและทําTAXREFUND

15.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 096 / QR 836 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและ เครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

12.40 น.คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดี

แผนที่

เงื่อนไข

1) ค่าตั๋วเครื่องบิน (ECONOMY CLASS) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกิน จํานวนวัน จํานวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกําหนด (น้ําหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้น เครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
2) ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3) ค่ารถโค้ชปรับอากาศนําเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
4) ค่า COACH TAX และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ
5) ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงาน เทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทําให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงความ เหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสําคัญ)
6) ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
7) ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
8) ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
9) ค่าบริการนําทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
10) ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
11) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะค่าบริการ)

1) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
2) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
3) ค่าน้ําหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม และมีจํานวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)
4) ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 1,000 บาท ต่อท่าน
5) ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน

  • เกี่ยวกับที่นั่งบนเครื่องบิน การออกบัตรโดยสารของคณะเป็นแบบหมู่คณะ การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะ ไม่ได้นั่งติดกัน เนื่องจากสายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินทุกกรณี ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการ บิน แต่ทางบริษัทจะพยายามให้มากที่สุดให้ลูกค้าผู้เดินทางมาด้วยกันได้นั่งด้วยกันหรือใกล้กันให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถ กรุณาติดต่อแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่สนามบิน เนื่องจากเป็น ดุลพินิจระเบียบปฏิบัติของสายการบิน ทางบริษัทฯทัวร์ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกฎระเบียบของสายการบินได้ทําได้ หากท่านมีข้อจํากัดในการเดินทาง
  • เกี่ยวกับห้องพัก เนื่องจากการวางแผนผังห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกันเช่น ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ห้องพัก แบบห้องคู่ 2 ท่าน (Twin/Double) และ ห้องพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง (Triple Room) จึงอาจทําให้ห้องพักแต่ละประเภท อาจจะ ไม่ติดกัน หรืออยู่คนละชั้นกัน และบางโรงแรมอาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน ซึ่งถ้าท่านต้องการเข้าพัก 3 ท่าน อาจจะต้อง เป็น 1 เตียงใหญ่ กับ เตียงพับเสริม หรือ อาจมีความจําเป็นต้องแยกห้องพักเป็นห้องคู่ 1 ห้อง (Twin/Double) และ ห้องเดี่ยว 1 ห้อง (Single) กรุณาสอบถามเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม เพราะห้องพักแบบ 3 ท่าน มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้นไม่ว่า กรณีใดๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มตามจริงที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยว
  •  เกี่ยวกับพนักงานยกกระเป๋า ทางบริษัททัวร์ไม่มีบริการพนักงานยกกระเป๋าเข้า – ออกที่โรงแรม เนื่องจากพนักงานโรงแรมใน ยุโรปมีจํานวนน้อย จะทําให้ท่านเสียเวลาในการรอกระเป๋านาน
  • เกี่ยวกับอาหาร กรณีที่ท่านแพ้อาหารบางประเภท โปรดระบุมาให้ชัดเจนในขั้นตอนการจอง หรือแจ้งล่วงหน้าก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ การรีเควสอาหารพิเศษที่นอกเหนือจากรายการทัวร์กําหนด จะมีค่าใช้จ่ายอาหารพิเศษต่างๆเพิ่มเติม เพื่อชําระให้กับ เมนูใหม่ที่ท่านต้องการ เช่น อาหารทะเล เป็นต้น
** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
119,555 บาท
รหัส 039-01724 ทัวร์ยุโรป อิตาลี ออสเตรีย เยอรมัน สวิต
ระยะเวลา 9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น 119,555 บาท
เดินทางช่วง ส.ค.67 - ธ.ค.67
เดินทางโดย Qatar Airways (QR)
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม https://naturetrekecotour.com/tour.php?tour_id=7482
--------------------------------------
ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/053/039-01724.pdf
--------------------------------------
สนใจติดต่อ NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
เลขที่ใบอนุญาต 11/11898
โทร +66 (0) 88 141 9894 ,+66 (0) 2 556 1223 ,+66 (0) 99 325 2553
LINE ID @naturetrek
อีเมล sale.naturetrekth@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode

โปรแกรมแนะนำ

ติดต่อสำนักงาน
NATURE TREK ECO TOUR & TRAVEL
เลขที่ใบอนุญาต 11/11898

48/4  แขวง คุ้งกระถิน  เขต เมืองราชบุรี จังหวัด ราชบุรี รหัสไปรษณีย์ 70000

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา